ตั้งแต่ต้นปี 2560 เป็นต้นมา Mr.Love Dinings มีโอกาสไปรีวิวและไปทานอาหารที่ร้านอาหารของโรงแรมห้าดาวในกรุงเทพมาหลายร้าน จึงถือโอกาสนี้บอกเล่าความประทับใจของร้านอาหาร “15 ร้านอาหารแห่งปี 2560 โดยมิสเตอร์เลิฟไดนิ่งเอส , 15 TOP Restaurant By Lovedinings 2017” ที่ Mr.Lovedinings ประทับใจเป็นพิเศษ
ร้านที่ 1 : Chocolate Buffet , Sukhothai Bangkok ( ช็อคโกแลตบุฟเฟ่ต์ ของโรงแรมสุโขทัย )
Mr.Lovedinings ประทับใจช็อคโกแลตร้อนที่มีช็อคโกแลตให้เลือกหลายแบบตามความเข้มข้น เพื่อนำมาชงเป็นเครื่องดื่มช็อคโกแลตร้อนในสไตล์ที่เราชอบ ในไลน์อาหารมีทั้งอาหารคาว เช่นแซนด์วิช , ไส้กรอก อาหารหวาน เช่น เค้กช็อคโกแลต , ชีสเค้ก และ ขนมอีกมากมาย เรียกว่าคุ้มเกินคุ้ม ในราคาประมาณพันบาทต่อท่าน
—————————————-
ร้านที่ 2 : VERTIGO AND MOON BAR ( เวอร์ทิโก้ & มูนบาร์ )
ร้านอาหารสไตล์รูฟท็อปบาร์ของโรงแรมบันยันทรีกรุงเทพ Mr.Lovedinings ประทับใจกับความสวยงามของวิวกรุงเทพยามราตรีสามารถชมวิวกรุงเทพได้แบบ 360 องศา ประทับใจกับคุณภาพของอาหาร และการบริการที่ใส่ใจลูกค้าดีมากๆ Mr.Lovedinings เชื่อเหลือเกินว่าที่นี่คงเป็นร้านอาหารในฝันของใครหลายๆ คนที่อยากพาแฟนมาเดท หรือ มาฉลองวันเกิดที่นี่
ดูรีวิว Vertigo and Moon Bar กด
—————————————-
ร้านที่ 3 : The Sukhothai Bangkok Sunday Brunch ( ซันเดย์บรันซ์ ของโรงแรมสุโขทัย )
ด้วยคุณภาพของวัตถุดิบในระดับซุปเปอร์พรีเมี่ยม ครบครันทั้งลอบสเตอร์ , กล้ามปูอลาสก้า , หอยนางรมนานาชนิด , โรสไพร์มริบวากิวเนื้อนุ่มคุณภาพเหมือนทานอะลาคาร์ต , ซูชิ และซาซิมิ เกรดนำเข้า , ของหวานหลากหลาย ทั้งเครบซูเซ็ต , ขนมเค้กนานาชนิด Mr.Lovedinings ยกให้ซันเดย์บรันซ์ที่นี่เป็นซันเดย์บรันซ์ที่ดีที่สุดของกรุงเทพ
ดูรีวิว ซันเดย์บรันซ์ ของโรงแรมสุโขทัย กด
————————————————-
ร้านที่ 4 : Bangkok Marriott Marquis Queen’s Park Sunday Brunch ( ซันเดย์บรันซ์ ของโรงแรมแมริออทมาร์คีส์ )
น่าจะเป็นซันเดย์บรันซ์ที่มีไลน์อาหารใหญ่ที่สุดของกรุงเทพ เรียกว่าถ้าให้ที่นี่เป็นที่สอง ผมเองก็นึกไม่ออกว่าที่ไหนจะมีไลน์ซันเดย์บรันซ์ใหญ่กว่าที่นี่ กว่าจะเดินดูอาหารที่อยากกินครบนี่เล่นเอาเหนื่อย อาหารมีให้เลือกหลากหลายทั้ง ซีฟู้ด ,อาหารญี่ปุ่น ,อาหารจีน , อาหารนานาชาติ , เนื้อวากิวอบ , ขนมหวานนานาชนิด
ดูรีวิวซันเดย์บรันซ์ แมริออทมาร์คีส์ กด
———————————————-
ร้านที่ 5 : Red Sky ,Centara Grand At Central World ( เรดสกาย )
รูฟท็อปบาร์ ของโรงแรมเซ็นทาร่าแกรนด์ แอทเซ็นทรัลเวิลด์ รูฟท็อปบาร์ที่นี่แบ่งเป็น 2 ชั้น ชั้นแรกอยู่ที่ชั้น 55 เป็นส่วนของห้องอาหารไฟน์ไดนิ่ง สำหรับนั่งทานอาหารชมวิวเท่านั้น เสริฟอาหารแบบอะลาคาร์ตเมนู อาทิเช่น ซุป , สเต็ก , เป็นต้น
ส่วนชั้น 56 เป็นรูฟท็อปบาร์ เปิดให้ขึ้นไปสัมผัสกับวิวสวยๆของกรุงเทพแบบ 360 องศา เหมาะแก่การไปนั่งชมพระอาทิตย์ตก หรือ ชมวิวกรุงเทพยามราตรีแบบพาโนรามิควิว เมนูอาหารในส่วนของบาร์จะเป็น ทาปาสหรือ Light Snack เช่น เฟรนซ์ฟราย, Crab Cake,
ปลาหมึกทอดเป็นต้น ราคาโดยประมาณ 300 บาทขึ้นไป เครื่องดื่มที่ระดับราคาเริ่มต้น ประมาณ 400 บาทต่อแก้ว
———————————————-
ร้านที่ 6 : New York Steakhouse , Jw Marriott Bangkok ( นิวยอร์คสเต็กเฮ้าส์ )
ร้านเสต็กเฮ้าส์แบบไฟน์ไดนิ่งที่เลือกใช้วัตถุดิบชั้นดี มีการทำ Aging เนื้อตามมาตรฐานของการจัดเก็บเนื้อที่ดี การบริการยอดเยี่ยม ห้องอาหารสวยน่านั่ง เมนูแนะนำ ซีฟู้ด , โรสไพร์มริบ หมักเครื่องเทศจากนั้นนำไปกริลและอบจนได้ความสุกในระดับที่พอเหมาะ , ริบอายส์สเต็ก กริลล์ที่ความสุกระดับมีเดียม เนื้อนุ่ม ชุ่มฉ่ำ ทานคู่กับน้ำจิ้มแจ่มรสเข้มข้นเข้นกันดีนักแล ปิดท้ายด้วยของหวาน ชีสเค้ก หรือ ช็อคโกแลตดรีมรสเข้มข้น ทำให้มื้อดินเนอร์ของคุณจะเป็นที่จดจำไม่รู้ลืม
ดู รีวิวนิวยอร์คสเต็กเฮ้าส์ กด
———————————————-
ร้านที่ 7 : Horizon rooftop restaurant & bar , Hilton Pattaya
รูฟท็อปบาร์วิวสวยที่สุดของพัทยา ตั้งอยู่บนชั้น 34 ของโรงแรม Hilton Pattaya ทำให้สามารถชมวิวทะเลพัทยา ได้แบบสกายไลน์วิว เพลิดเพลินไปกับความโรแมนติคของวิวพระอาทิตย์ตกดิน และวิวยามราตรีของพัทยา
Horizon rooftop restaurant & bar แบ่งห้องอาหารเป็น 2 ส่วนทั้งส่วน Indoor ที่ตกแต่งในสไตล์หรูหรา เหมาะแก่การนั่งทานอาหารพร้อมเพลิดเพลินไปกับวิวสวยๆของพัทยา และส่วน Outdoor ที่ตกแต่งในแบบสไตล์ของบาร์สุดชิคเปิดโล่งรับลมธรรมชาติ
ให้ความรู้สึกเหมือนได้สัมผัสกับทะเลในแบบใกล้ชิด
ดูรีวิว Horizon rooftop restaurant & bar กด
———————————————-
ร้านที่ 8 : The St.regis Bangkok Afternoontea ( อาฟเตอร์นูนทีเซนต์รีจีสกรุงเทพ )
Mr.Lovedinings มีโอกาสแวะไปจิบชา ทานขนมมาหลายๆ ที่ แต่อาฟเตอร์นูนทีที่สร้างความประทับใจให้มิสเตอร์เลิฟไดนิ่งเอสมากที่สุดคือ อาฟเตอร์นูนทีของโรงแรมเซนต์รีจีสกรุงเทพ ประทับใจกับความสวยงามของห้องอาหาร ชอบที่ออกแบบเป็นห้องอาหารที่มีเพดานสูง ทำให้มองวิวสวยงามของสนามม้าราชกรีฑาสโมสรได้โดยไม่มีอะไรมาบดบัง
ขนมในเซ็ตมีความหลากหลาย ทั้งสโคน , แซนด์วิช และขนมเค้กชิ้นเล็กๆ มิสเตอร์เลิฟไดนิ่งเอสมักชอบไปที่นี่ตอนบ่ายแก่และนั่งยาวไปจนถึงพระอาทิตย์ตกดิน จิบคอกเทลและดินเนอร์ต่อแบบเบาๆ เรียกว่ามีความสุขล้นใจ
ดูรีวิวอาฟเตอร์นูนทีเดอะเซนต์รีจีสกรุงเทพ กด
———————————————-
ร้านที่ 9 : Anantara Siam Sunday Champagne Brunch ( แชมเปญซันเดย์บรันซ์อนันตราสยามกรุงเทพ )
Mr.Lovedinings ประทับใจกับซีฟู้ดของที่นี่ อาทิกุ้งลายเสือยักษ์ ตัวใหญ่มาก , ก้ามปูทะเลอันใหญ่ , หอยแมงภู่ , หอยนางรมนำเข้า และเมนูเด็ดที่ห้ามพลาดคือเป็ดปักกิ่งหนังกรอบ , โรสบีส , หมูกรอบชิ้นใหญ่ทานคู่กับซอสแอปเปิ้ล , โคลด์คัทคุณภาพดีจากอิตาลี , ของหวานนานาชนิด เช่น ชีสเค้ก , เค้กช็อคโกแลต , คัพเค้ก นอกจากนี้ภายในไลน์ยังเสริฟแชมเปญระดับพรีเมี่ยม Taittinger Champagne แบบไม่อั้น และไวน์ที่คัดสรรอย่างดีโดย Sommelier แค่เพียงเท่านี้ก็ทำให้คุณหลงรักแชมเปญบรันซ์ของที่นี่ได้โดยไม่ยาก
อ่านรีวิวซันเดย์บรันซ์อนันตราสยาม กด
———————————————-
ร้านที่ 10 : Pagoda Chinese Restaurant Bangkok Marriott Marquis Queen ‘s Park (พาโกด้า ไชนีส เรสเตอรองท์ แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค )
พาโกด้าถือเป็นร้านอาหารจีนในดวงใจที่ Mr.Lovedinings ประทับใจและไปบ่อยมาก ชอบเมนูหมูกรอบ ที่เชฟนำไปกริลล์จนหนังกรอบแต่เนื้อยังคงความชุ่มและนุ่ม หมูกรอบที่นี่แบ่งเป็นชั้นๆ ได้ถึง 5 ชั้นทีเดียว กรอบอร่อยมาก , ข้าวเหนียวปู ข้าวเหนียวหุงนุ่มๆ ผสมกับเนื้อปูและเครื่องเทศนำไปอบในหม้อดิน จนมีกลิ่นหอม ให้ความรู้สึกเหมือนทานข้าวผัดกลิ่นหอมแบบจีน แต่ตัวเม็ดข้าวทำจากข้าวเหนียว , ก๋วยเตี๋ยวหลอดกุ้งทอด กัดเข้าไปคำแรกตัวแป้งจะนุ่มๆ ตัดกับความกรอบของแป้งปอเปี๊ยะที่ห่อกุ้งทอดไว้ กุ้งทอดกรอบกำลังดี ทานคู่กับน้ำจิ้มรสหวานทานเพลินหมดจานแบบไม่รู้ตัว
หมูกรอบ
ข้าวเหนียวปู
ก๋วยเตี๋ยวหลอดกุ้งทอด
ดู รีวิวเดอะพาโก้าไชนีสเรสเตอรองท์ กด
———————————————-
ร้านที่ 11 : ATTITUDE , AVANI RIVERSIDE BANGKOK HOTEL
ATTITUDE รูฟท็อปบาร์เปิดใหม่ของโรงแรม AVANI RIVERSIDE BANGKOK HOTEL ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้ผู้มาเยือนได้ดื่มด่ำกับวิวแม่น้ำเจ้าพระยาที่สวยงาม ในแบบพาโนรามิควิว ห้องอาหาร Attitude แบ่งออกเป็น 2 ส่วน Indoor ออกแบบเป็นห้องอาหารใช้กระจกบานสูงเพื่อรับชมวิวด้านนอก และ Outdoor เป็นส่วนของรูฟท็อปบาร์เหมาะแก่การนั่งดื่ม
———————————————-
ร้านที่ 12 : Sunday Brunch GRAND HYATT ERAWAN BANGKOK ( ซันเดย์บรันซ์แกรนด์ไฮแอทเอราวัณกรุงเทพ )
Mr.Lovedinings ชอบที่นี่เพราะ คุณภาพวัตถุดิบดี อาหารหลากหลาย อาทิ ซีฟู้ดสดๆ , อาหารญี่ปุ่น , เป็ดปักกิ่งทำสด ห่อแบบคำต่อคำตามออเดอร์ , อาหารไทยพวกเมนูยำต่างๆ อร่อย , สปาเก็ตตี้ คุกกิ้งบายออเดอร์อร่อย , คัพเค้กและชีสเค้ก ดีมาก อีกทั้งตัวห้องอาหารโอ่โถง เป็นห้องอาหารแบบเพดานสูง ให้ความรู้สึกสบาย
ดูรีวิว ซันเดย์บรันซ์แกรนด์ไฮแอทเอราวัณกรุงเทพ กด
——————————————————–
ร้านที่ 13 : Dinner Buffet Siam Kempinski Hotel Bangkok ( ดินเนอร์บุฟเฟ่ต์กับเมนูจานเด่น โรงแรมสยามเคมปินสกี้ )
ดินเนอร์บุฟเฟ่ต์ของโรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพ เป็นอาหารสไตล์ยูโรเปี้ยน ความหลากหลายของเมนูอาจมีไม่มากนัก แต่คุณภาพของอาหารอยู่ในระดับที่เรียกว่าเยี่ยมมากเลยทีเดียว ทั้ง ซีฟู้ดเกรดพรีเมี่ยม , ชีสคุณภาพดี , อาหารญี่ปุ่นสดๆ , แซลมอนรมควัน รวมถึงน้ำดื่มที่ใช้เสริฟในบุฟเฟ่ต์ใช้ยี่ห้อ SAN PELLEGRINO และ acqua panna (น้ำดื่มรวมในราคาบุฟเฟ่ต์เรียบร้อยแล้ว)
และที่ประทับใจสุดๆไปเลย คือการบริการที่ยอดเยี่ยม นี่คือเหตุผลที่ทำให้ผมหลงรักที่นี่
ดินเนอร์บุฟเฟ่ต์กับเมนูจานเด่น โรงแรมสยามเคมปินสกี้
————————————————————–
14.Theo Mio ( ทีโอ มิโอ )
ร้านอาหารอิตาเลียนชื่อดัง เชฟ Theo Randall เซลิบริตี้เชฟชื่อดังชาวอังกฤษซึ่งได้รับรางวัลการันตีมาอย่างมากมาย THEO MIO เป็นร้านอาหารอิตาเลียนแนวใหม่ ที่เลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพเยี่ยมมาสร้างสรรเมนูของแต่ละฤดูกาล (เมนูจะมีการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลของพืชผล) ห้องอาหารเป็นสไตล์ครัวเปิดตกแต่งในสไตล์โมเดิร์น โซฟาสีน้ำเงิน ตัดกับเก้าอี้นั่งสีเทอคอย สวยฟรุ้งฟร้ิงมาก ตัวร้านอาหาร เพดานสูงโปร่งให้ความรู้สึกสบาย น่านั่ง
————————
15.Vogue Louge (โว้กเลาจน์ )
Vogue Lounge ร้านอาหารสไตล์บาร์ ออกแบบได้สวยเก๋ ตามแบบสไตล์ของโว้กแมกกาซีนแฟชั่นชื่อดัง เคาน์เตอร์บาร์ประดับด้วยหินอ่อน โต๊ะและเก้าอี้นั่ง เป็นโลหะสีทองดูหรูหรา ฝาผนังประดับด้วยรูปภาพจากศิลปินมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก
ด้านนอกร้านออกแบบเป็นรูฟท็อปสุดแสนโรแมนติค เมื่อพระอาทิตย์ตกดินไปแล้วแสงไฟภายในร้านจะปรับเป็นแสงสลัวพนักงานของห้องอาหารจะจุดโคมเทียนตามโต๊ะโรแมนติคมาก
Mr.Lovedinings ชอบมานั่งดริงก์ที่นี่เป็นประจำ เพราะชอบทั้งการบริการ และ ฝีมือของบาร์เทนเดอร์ในการทำคอกเทล เมนูแนะนำที่สั่งประจำคือ Old Fashion คอกเทลที่มี Bourbon เป็นส่วนผสมหลัก ช่วง 17.00 – 21.00 น. ของทุกวันมีโปรโมชั่น หนึ่งแถมหนึ่ง
——————————-
หวังว่าร้านอาหารทั้ง 15 ร้านที่เลือกมาจะเป็นที่ถูกอกถูกใจของเพื่อนๆ นะครับ ^_^