ประเภทอาหาร: โมเดิร์น เอเชีย น
เวลาทำการ: 18.00 น. – 22.30 น. [วันจันทร์ ถึง วันเสาร์] (รับรายการสุดท้ายเวลา 22.30 น.)
จำนวนที่นั่ง: 118 ที่นั่ง พร้อมห้องส่วนตัวจำนวน 12 ที่นั่ง
—————————-
KUDETA BANGKOK เป็นร้านอาหารซึ่งภายในประกอบไปด้วยหลายห้องอาหารด้วยกัน
ดังนี้ Club Lounge, Signature , อิซากายะ และ คูบาร์
วันนี้ผมจะพาเพื่อนๆไปชิมอาหารที่ห้องซิกเนเจอร์ (Siganature)
ซึ่งเป็นห้องอาหารที่ดีที่สุดของ Ku De Ta ไม่ว่าจะไปเปิดที่เมืองไหนก็ตาม
ห้องอาหาร SIGNATURE นี้ต้องมีเอกลักษณ์ที่เปี่ยมไปด้วย ดีไซน์ และการตกแต่งที่สวยงาม
แฝงไปด้วยบรรยากาศของความหรูหราและโรแมนติค อาหารของที่นี่เป็นโมเดิร์น เอเชียน
แต่จะออกมาทาง contemporary japanese
เมื่อก้าวเท้าออกจากลิฟท์จะเจอกับ คูบาร์ ซึ่งออกแบบเคาน์เตอร์บาร์
เป็นรูปสี่เหลี่ยม แนวยาวขนานไปกับวิวอันสวยงามของกรุงเทพ
คอกเทลของคูบาร์จะเป็นเครื่องดื่ม สปิริตแบบญี่ปุ่น ซึ่งใช้วัตถุดิบจากย่านเอเชียเป็นหลัก
Storm Cooler
คอกเทลที่มีส่วนผสม จากเสาวรส ให้รสชาติหวานอมเปรี้ยวทานแล้ว สดชื่นมากๆ ราคา 320 THB++
Berry Man Cobbler แก้วนี้ทำจากน้ำเบอร์รี่ รสออกหวานๆเปรี้ยวๆ ทานกับเมนูปลาเข้ากันได้ดีมาก
ราคา 320 THB++
Havana Eighty Six เป็นแก้วที่ผมชื่นชอบมากที่สุด ทำมาจาก RUM Top ด้วย White Chocolate
ให้ความรู้สึกหอมหวาน รสนุ่มมาก ตัวครีมไวท์ชอกรสจะออกหวานนิดๆ
โปรโมชั่น : Sundown Double Promotion Buy 1 get 1 Free
สั่งคอกเทลแก้วไหนก็ได้ที่คูบาร์ในช่วงเวลา 17.00-20.00 น. ของทุกวัน
รับอีกแก้วฟรีไปเลยครับ
——————————————————
ถัดจากคูบาร์จะเป็นห้องอาหาร SIGNATURE ซึ่งมี คอนเซปท์การตกแต่งที่หรูหรา
พิถีพิถันใส่ใจในทุกรายละเอียด แม้กระทั่งตะเกียบที่ใช้คีบอาหาร ได้ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ
ให้ตรงส่วนบนของตะเกียบนั้นลอยขึ้นจากโต๊ะ หยิบใช้ได้สะดวก
แค่เดินเข้ามา ยอมรับครับว่าตกตะลึงไปกับความสวยและความหรูหราของห้องอาหาร
ที่ออกแบบมาเป็นครัวเปิดขนาดใหญ่วางขนานไปกับตัวห้องอาหารเป็นแนวยาว สามารถชม
ขั้นตอนการปรุงอาหารของเชฟ ที่เต็มไปด้วยความพิถีพิถันได้ในทุกขั้นตอน
การจัดโต๊ะของที่นี่จะเน้นพื้นที่ตรงกลางค่อนข้างมาก แต่ละโต๊ะจัดค่อนข้างห่างกัน เพื่อเน้นความเป็นส่วนตัว
และการวางตำแหน่งโต๊ะของที่นี่มีจุดเด่นอีกอย่างที่ผมสังเกตเห็นและชื่นชมในความใส่ใจในรายละเอียดทางของร้าน
คือไม่ว่าจะเลือกนั่งโต๊ะตรงตำแหน่งไหนก็ตาม โต๊ะจะไม่บังวิวกันเองเลยแม้แต่น้อย
จานเด่นของร้าน
1. Madal Ceviche
ทำมาจาก Japenese Sea Beam , ส้มสายน้ำผึ้ง , น้ำมะนาว ,น้ำทับทิม, โคโคนัทครีม ราคา 400++ THB
จานนี้เด่นที่รสชาติที่เกิดจากส่วนผสมหลายอย่าง เริ่มต้นความรู้สึกแรกนั้นสัมผัสได้ถึงความเผ็ดร้อน
คล้ายกับ ทานปลาดิบกับวาซาบิ หลังจากสัมผัสกับความเผ็ด ตัวปลาที่มีความหนึบและนุ่ม
ความเปรี้ยวเกิดจากซอสที่ทำมาจาก ส้มสายน้ำผึ้ง , น้ำมะนาว ,น้ำทับทิม นั้นลดทอนความเผ็ด
และทำให้เมนูนี้กลมกล่อมได้อย่างไม่น่าเชื่อ โคโคนัทครีมทำให้เมนูนี้ดูนุ่มนวลขึ้น หวานขึ้น
2. Salmon Hijiki ราคา 900++ THB
ความพิเศษของจานนี้นั้นอยู่ที่ปลาแซลมอลซึ่งนำเข้ามาจากสกอตแลนด์ ย่างบนเตาที่ถูกควบคุมอุณหภูมิมาอย่างดี
โดยจะย่างให้มีความสุขแค่ระดับ Medium เท่านั้น เพื่อให้เนื้อปลายังคงรสหวานและมีความชุ่มในตัวปลา
เสริฟมาซอส ที่ทำมาจากผักบุ้งจีน , โรยหน้ามาด้วย สาหร่าย Hiliki Balack Seaweed , White Seaweed ,
ตัวปลาจะนุ่ม ค่อยๆบรรจงเคี้ยวจะรู้สึกว่าภายในเนื้อปลานั้นยังคงมีความชุ่มของน้ำที่อยู่ภายในตัวปลา
เพื่อให้ได้รู้สึกถึงรสชาติของเมนูนี้ เพราะผมเซอร์ไพรส์ตั้งแต่ ใช้ผักบุ้งมาทำซอสแล้ว
3. Sangsom Cappucino ราคา 360++ THB
เป็นของหวานที่ผมสะดุดกับชื่อมากที่สุดเท่าที่มิโอกาสได้ลิ้มลอง
เมนูนี้ ส่วนผสมหลัก เรียงจากก้นถ้วยมาถึง ด้านบนของขนม
คือ แพชชั่นครีม, ชอกโกแลตคอฟฟี่ครัมเบิ้ล , มิลค์ไอศครีม, ท็อปด้วยแสงโสม
รสชาติของเมนูนี้ถึงแม้ จะใช้เหล้าทำ แต่ไม่มีกลิ่นของแอลกอฮอล
มาทำให้ระคายเคืองหรือทำให้เสียรสชาติของความหวานของมิลค์ไอศครีม
และความกรอบ กรุบกริบ ของเกล็ดชอกโกแลตคอฟฟี่ครัมเบิ้ล เลยแม้แต่น้อย
4. Calamansi Stack
Raspberry Sauce, Almond cake,Almond tuile,Whip cream, Exotic mouse, Kalamansi cream, Brown sugar tuile
ราคา 360 ++ THB
เชฟของหวานของ Kudeta นั้นเก่งเรื่องการนำส่วนผสมหลายอย่าง
มา MIX รวมกันเป็นของหวานที่แสนอร่อย รสชาติของจานนี้จะออกรสหวาน ,มันและอมเปรี้ยวไปพร้อมกัน
ตัวซอสราสเบอร์รี่ ช่วยลดความเลี่ยน
รายการอาหารยังไม่รวมเซอร์วิสชาร์จ 10 % และภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%