ปัจจุบัน : ร้านปิดให้บริการเรียบร้อยครับ รอ Renovate ร้านใหม่ ภายใต้คอนเซปท์ใหม่
—————————————————–
ห้องอาหาร Tables Grill (เทเบิลส์ กริล) ห้องอาหารฝรั่งเศส ของโรงแรมแกรนด์ไฮแอทเอราวัณ
ปกติเวลาไปทานอาหารนอกบ้าน Mr.Love Dinings จะไปกับเพื่อนสองคน บ่อยครั้งที่ผมกับเพื่อนมักมีความคิดเห็นไม่ค่อยตรงกัน
บางร้านผมชอบ เพื่อนเฉยๆ
บางร้านผมเฉยๆ เพื่อนบอกว่าดี
เรียกว่าไม่เคยโหวตตรงกันเลยสักครั้ง
จนมาถึงร้านนี้ Tables Grill (เทเบิลส์ กริล) ห้องอาหารฝรั่งเศสของโรงแรม Grand Hyatt Erawan Bangkok
เป็นร้านแรกในรอบหลายปีที่ผมกับเพื่อนให้ความเห็นตรงกันว่าดีมาก ตั้งแต่บรรยากาศห้องอาหาร ขนมปังคอมพลิเมนารี่ และ อาหารทุกจาน
Mr.Love Dinings ประทับใจกับ ไลท์ติ้งของห้องอาหาร Tables Grill (เทเบิลส์ กริล) แสงไฟภายในร้านให้ความรู้สึกโรแมนติค อบอุ่น การจัดโต๊ะของร้านอาหารให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัว การบริการของพนักงานยอดเยี่ยม ข้อมูลอาหารเป๊ะ ข้อมูลไวน์ดี
Tables Grill (เทเบิลส์ กริล) มีเมนูอาหารให้เลือกทั้งเซตคอร์ส และ อะลาคาร์ต แต่ผมว่าเซตคอร์สคุ้มกว่า นอกจากความคุ้มค่าแล้ว เมนูตามเซตคอร์ส เชฟจะเลือกเมนูอาหารที่โดดเด่นของร้าน มาเสริฟตามลำดับตั้งแต่ Appretizer , Main จนถึง Dessert
เซตเมนู 5 คอร์ส ราคา 2,900++ THB
เซตเมนู 7 คอร์ส ราคา 3,900++ THB
เซตคอร์สที่ผมเลือกทานวันนี้เป็น เซตคอร์ส 5 คอร์ส โดยใช้ผักจากโครงการหลวง จ.เชียงใหม่ และ อาหารทะเลจากแหล่งผลิตชั้นดีจากทั่วโลก อาทิ ญี่ปุ่น
เร่ิมจาก Welcome Drink ทำจาก น้ำลิ้นจี่ , น้ำแพสชั่นฟรุต , น้ำเลมอนสด และ ส้มยูสุ ผสมกับสาเก รสเปรี้ยวอมหวานให้ความรู้สึกสดชื่น
ขนมปังคอมพลิเมนทารี่มีให้เลือกหลายชนิด ทั้งขนมปังฝรั่งเศส , ขนมปังลำใย , ขนมปังบริยอช ผมชอบขนมปังลำใยมากที่สุด หวานหอมอร่อย ทานคู่กับเนยจืดจากฝรั่งเศส Bordier butter ซึ่งเป็นเนยที่นักชิมลงความเห็นว่า คุณภาพดีและอร่อยมาก ผมเห็นด้วยเช่นกัน ตัวเนยมีความมันแต่ไม่เค็มช่วยชูรสให้ขนมปังเด่นขึ้น
ส่วนขนมปังฝรั่งเศสผิวด้านนอกจะกรอบ ส่วนเนื้อจะค่อนข้างแข็ง ผมทานคู่กับเนยแบล็คทรัฟเฟิล
amuse bouche : เจลลี่ทำจากแตงกวา และ มะพร้าว และ ลอบสเตอร์ราวิโอลี่
คอร์สที่ 1 : Wild Langoustine Tartare
Hua Hin Sturgeon Caviar Consommé Jelly, Lemon Zest
กุ้งสดจากนอร์เวย์ ทานกับแตงกวา Tomato Prulee ท็อปด้วยคาเวียร์จากหัวหิน รสออกหวาน มัน จานแรกจะเบาๆ
อาหารฝรั่งเศสส่วนใหญ่จะเรียงเมนูอาหารจากเบาไปหาหนัก และปิดท้ายด้วยของหวาน
คอร์สที่ 2 : Roasted Hokkaido Scallops
Endive, Cinnamon Star Anise Infused Soy Milk Foam
สแกลลอบจากฮอกไกโดนำไปอบ แล้วนำมา Sear จนสุก เนื้อสแกลอบจะค่อนข้างแข็งนิดนึง แต่มีรสหวาน ทานคู่กับ Porch Wine Jelly รสหวานและเค็มอ่อน ตัดรสด้วย Cinnamon Star Anise Infused Soy Milk Foam มีรสออกมันๆ เหมือนถั่วบดช่วยตัดเลี่ยนได้เป็นอย่างดี
คอร์สที่ 3 : Pacific Red Tuna
Orange & Soy Marinade, Coriander Root
แปซิฟิคเรดทูน่าจาก โทยามะเกาะของญี่ปุ่นนำไป Sear ที่ความสุกระดับมีเดียม ทานกับ บีรูทเหลือง เรดิซ เบบี้แครอท เสริฟคู่กับซอสที่ทำจากน้ำส้ม แครอท และ ขิง รสเปรี้ยว อมหวาน แบบอ่อนๆ ไม่กลบรสหวานของปลาทูน่า
จานนี้อร่อยมาก
คอร์สที่ 4 : Confit Amber Jack
Parsley Velouté, Shellfish Jus
ปลาแอมเบอร์แจ๊ค นำไปทำให้สุกโดยวิธีสโลว์คุก ตัวเนื้อปลายังคงความสด ทานคู่กับซอสที่ทำจากพาร์สลีย์ (Parsley) รสออกเค็มนิดๆ ท็อปด้วยทรัฟเฟิลจากฝรั่งเศส
คอร์สที่ 5 : Apple and Cucumber
Apple Parfait, Cucumber-Dill Compote Lime Cream Cheese, Cinnamon Crumble Lemongrass Sorbet
แอปเปิ้ลพาร์เฟ่ต์ททำจากแอปเปิ้ลเขียว เนื้อด้านในเป็นครีมรสเปรี้ยว หุ้มด้วยแอปเปิ้ลเจลลี่ ตัดรสด้วย แตงกวาเชื่อม และ ไอศครีมตะไคร้
petit fours
financier cake , Mint Chocolate , Chocolate
สรุป : เซตคอร์สมีการเรียงอาหารจากเบา ไปหาหนัก ใช้วัตถุดิบชั้นดีในการปรุงอาหาร อาหารแต่ละจานมีความซับซ้อนของวัตถุดิบที่ซ่อนอยู่ เวลาทานให้ตักทุกอย่างในจาน อย่างละพอคำแล้วทานพร้อมกันในคำเดียว
ผมชอบไลท์ติ้งของห้องอาหาร แสงไฟภายในร้านให้ความรู้สึกอบอุ่น
ซอมมูลิเย่ให้ข้อมูลของไวน์ได้ดีมาก ไวน์ทุกตัวที่เลือกมาแพร์ริ่งกับอาหาร ช่วยชูรสให้อาหารทุกจานมีความโดดเด่นมากขึ้น
พนักงานร้านอาหารบริการดี และ ให้ข้อมูลของอาหารแต่ละจานได้อย่างดีเยี่ยม สร้างความประทับใจให้กับ Mr.Love Dinings เป็นอย่างมาก
หมายเหตุ ราคาอาหารยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและเซอร์วิสชาร์จ