Tsu Japanese Restaurant สึ ร้านอาหารญี่ปุ่นของโรงแรมเจดับบลิวแมริออทกรุงเทพ เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม บรรยากาศของห้องอาหารจะค่อนข้างมืด ออกแบบไม้ดัดเป็นรูปคลื่นสื่อความหมายถึงชื่อห้องอาหาร “สินามิ”
โดยภายในห้องอาหารสึนามิจะประกอบด้วยห้องอาหารสองห้องคือ
1.Tsu Japanese Restaurant ห้องอาหารญี่ปุ่นต้นตำรับ
2.Nami Teppanyaki Steakhouse ห้องอาหารเทปันยากิ สเต็กเฮ้าส์
ในรีวิวนี้จะพูดถึงเฉพาะตัวห้องอาหาร TSU , สึ เน้นใช้วัตถุดิบเกรดพรีเมี่ยม นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นมาใช้ในการประกอบอาหาร ปลาดิบ และอาหารทะเล ของที่นี่ใช้วิธีการขนส่งแบบพิเศษโดยไม่ผ่านกรรมวิธีแช่แข็ง(Freeze) ทำให้เนื้อปลายังคงความสดใหม่
วันนี้มิสเตอร์เลิฟไดนิ่งเอสขอพาไปทำความรู้จักกับเชฟยูคิโอะ ทาเคดะ เชฟใหม่ชาวญี่ปุ่น ผู้ซึ่งหลงใหลการทำอาหาร ผ่านประสบการณ์ในการทำอาหารมามากมาย ก่อนมาร่วมงานกับห้องอาหาร TSU นั้น เชฟเคยเป็นเชฟห้องอาหารระดับมิชลินสตาร์สองดาวมาก่อน
เมนูแนะนำประจำห้องอาหาร TSU นอกจาก จะมี ซูชิ , ซาชิมิ , เทมปุระแล้ว ยังมีเมนูใหม่ที่หัวหน้าเชฟอาหารญี่ปุ่นทาเคดะ รังสรรค์ขึ้นมาแบบเฉพาะกิจอย่าง Chef’s signature menu ซึ่งเป็นเมนูที่เชฟคิดค้นขึ้นมาเพื่อที่ต้องการจะบอกกล่าวเรื่องราวของชีวิตและประสบการณ์การทำอาหารญี่ปุ่นกว่า 30 ปีของเชฟ
CHEF TAKEDA SIGNATURE MENU
เมนูที่ 1 :
前菜
北海道海栗白胡麻豆腐
Homemade white sesame tofu 250++THB
เต้าหู้เนื้อแน่นทำจากงาขาว โดยนำงาขาวมากวนจนเหนียวได้ที่ ตลอดเวลาการกวนนั้นจะหยุดการกวนไม่ได้เลยแม้แต่น้อยเพราะจะทำให้เต้าหู้ไม่เหนียว ตัวเนื้อเต้าจะเหนียว หนึบ (ไม่ได้ใส่ผงเจลลาติน) คล้ายเยลลี่ ทานกับน้ำซุปและหอยเม่นรสหวาน
เมนูที่ 2 :
御造り
長崎産本鮪三種
Fresh Honmaguro tasting from Nagasaki เสริฟเป็นคำ ๆ ละ 590 ++THB
เนื้อปลาบลูฟินทูน่า เรียงจากซ้ายไปขวา อากามิ(เนื้อส่วนหลัง) จะมีความมันน้อยที่สุด เนื้อนุ่มแต่ไขมันไม่เยอะ(ผมชอบส่วนนี้มากที่สุด) ทานคู่กับเยลลี่ที่ทำมาจากน้ำสต๊อคปลาแห้ง , โอโทโร่(เนื้อส่วนท้อง) ตัวเนื้อจะนุ่มกว่าส่วนแรกไขมันจะเยอะกว่า ทานกับใบชิโอะ , ชูโทโร่(เนื้อส่วนกลางลำตัว) เนื้อส่วนนี้จะมีไขมันมากที่สุด นุ่มที่สุดละลายแทบไม่ต้องเคี้ยวทานคู่กับแผ่นงาดำทอด สำหรับเมนูนี้ Mr.Love Dinings ประทับใจเป็นพิเศษ เพราะขั้นตอนการขนส่งปลาจากญี่ปุ่นมาไทยนั้นไม่ผ่านการ Frozen หรือ แช่แข็งเลยแม้แต่น้อย
เมนูที่ 3 :
焼物
銀鱈祐庵西京焼き
Grilled miso marinated silver cod fish 640++THB
ปลาค้อดย่างซอสมิโซะ เนื้อปลา นุ่ม ฉ่ำและ หวาน ทานกับมะเขือเทศที่ผ่านการปรุงโดยกรรมวิธีพิเศษของเชฟ ตัวมะเขือเทศไม่มีรสเปรี้ยวเลยแม้แต่น้อย ประทับใจมากครับ
เมนูที่ 4 :
酢の物
ずわい蟹と鳴戸若布胡瓜のサラダ
Snow crab and Naruto seaweed salad. Tosazu vinegar sauce 400++THB
ปูหิมะเนื้อนุ่ม ทานคู่กับแตงกวาญี่ปุ่น และ สาหร่ายนารูโตะ ตัดรสเปรี้ยวด้วยไวเนก้าทำจากข้าว เป็นเมนูปรับรสของลิ้นเพื่อไปยังอาหารอีกคอร์ส
เมนูที่ 5 :
強肴
A5宮崎牛リブアイ味噌石焼き
A5 Miyazaki Rib Eye Beef stone grill with miso sauce 1,360++THB
เนื้อมิยาซากิ ส่วนริบอายวางมาบนหินร้อน ความร้อนบนตัวหินจะค่อยๆ ทำให้เนื้อสุกไปเรื่อยๆ สามารถเลือกระดับความสุกที่ชอบเองได้เลย ส่วนตัวผมจะชอบให้ผิวด้านนอกของเนื้อสุกนิดหน่อย แต่เนื้อด้านในกึ่งสุก กึ่งดิบ ตัวเนื้อนุ่มมาก ทานคู่กับซอสมิโซะรสหวาน
เมนูที่ 6 :
食事
鰻御飯 香の物 味噌汁
Fresh eel grilled Kabayaki 1,700++THB
ข้าวหน้าปลาไหล ใช้ปลาไหลสดจากญี่ปุ่น นำไปย่างจนสุกแล้วราดด้วยซอสเหนียวรสหวาน โดยการนำหัวปลา และ ก้างปลาไปเคี่ยวจนเหนียว เนื้อปลาไหลเนื้อนุ่ม มีกลิ่นหอม และรสหวาน ทานคู่กับน้ำซุปกลมกล่อมมาก
เมนูที่ 7 :
甘味
蓬おやき
Yomogi oyaki
ขนมโมจิ ไส้ถั่วแดง นำไปทอดจนผิวด้านบนกรอบ แต่ด้านข้างและตัวเนื้อส่วนอื่นๆ ยังคงความเหนียว และหนึบ ทานกับถั่วแดงรสหวาน
เป็นการจบมื้อดินเนอร์ที่สุดแสนประทับใจ ขากลับจากห้องอาหาร Mr. Lovedinings มีโอกาสแวะชมห้องเบเกอรี่ของโรงแรม ชื่อ Bangkok Baking Company โดยมีเมนูที่ผมมักซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านมาเป็นประจำ อาทิเค้กเรดเวลเวท ,ชีสเค้ก ,และคุกกี้
มาคราวนี้ทางห้องอาหารมีเมนูใหม่คือ Design 3D Cakes โดยทางร้านสามารถ ออกแบบและปั้นได้หลากหลายรูปแบบ
สนนราคาเริ่มที่ 2 ปอนด์ เริ่มตั้งแต่ 1,990 THB , 4 ปอนด์ เริ่ม ตั้งแต่ 2,990 THB โดยราคาของเค้กนั้นขึ้นอยู่กับความยากง่ายของแบบ
ขอจบรีวิวเพียงเท่านี้
หมายเหตุ ราคาอาหารยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและเซอร์วิสชาร์จ